คดีเซลล์สาว ส่อพบกระดูกเพิ่มอีกศพ พร้อมของหลายชิ้น หลังกู้ภัยดำน้ำหาหลักฐานเพิ่ม

คดีเซลล์สาว ส่อพบกระดูกเพิ่มอีกศพ พร้อมของหลายชิ้น หลังกู้ภัยดำน้ำหาหลักฐานเพิ่ม

จากกรณที่มีการพบรถยนต์นิสสัน พัลซ่าร์ สีขาวจมอยู่ในคลอง พร้อมศพเจ้าของรถคือ น.ส.กลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ อายุ 36 ปี เซลส์สาวขายปุ๋ย ซึ่งน่าจะจมนานกว่า 3 ปี จนเหลือแต่โครงกระดูก ล่าสุด วานนี้ (14 ธ.ค.) ตำรวจได้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดี

โดยกู้ภัยร่วมกตัญญู สระบุรี พร้อมด้วยนักประดาน้ำ 

ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในคลองน้ำชัยนาท-ป่าสัก ซึ่งเป็นจุดที่พบรถเก๋งจมน้ำและโครงกระดูกของน.ส.กลิ่นเกษรอีกครั้ง โดยพบชิ้นส่วนกระดูกจำนวนหนึ่ง มีกางเกงในจีสตริง ยกทรง ผ้าเทปสีเขียว และผ้าเทปกาว ซึ่งก็ยังไม่มั่นใจว่าสิ่งเหล่านี้อยู่กับร่างกระดูก หรืออยู่ในห่อผ้าแล้วหลุดออกมาและยังพบโครงกระดูกส่วนขาที่เกินมาจากที่พบครั้งแรกอีกด้วย

กระดูกที่พบเพิ่มดังกล่าวนั้น พบว่าเป็น ซี่โครงด้านหลัง แขน และขา ซึ่งชิ้นส่วนขาเกินมา 1 ชิ้น และพบกางเกงชั้นในสตรี 1 ตัว เสื้อยกทรงลายพราง 1 ตัว สก๊อตเทปสีเขียวหน้ากว้าง 2 นิ้ว ยาวประมาณ 30 นิ้ว โดยจมอยู่ใต้โคลนในรัศมีที่รถจมน้ำไม่เกิน 2 เมตร น้ำลึกประมาณ 1 เมตร

นอกจากผ้าเทปสีเขียว และผ้าเทปกาว แล้วยังมีสก๊อตเทปขนาดเดียวกันสีเทาทรงกลมซึ่งมีเส้นขนมนุษย์สั้นๆ ติดอยู่ ปะปนอยู่ในโคลน พร้อมด้วยเครื่องปั๊มลม แม่แรง เศษผ้าขาวบางสี่เหลี่ยมผืนผ้าคล้ายผ้าปูโต๊ะมีคราบเลือดติดอยู่ 1 ผืน อีกด้วย จากการพบโครงกระดูกมนุษย์ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะมีโครงกระดูกมนุษย์มากกว่า 1 ราย แต่ต้องรอผลพิสูจน์โดยละเอียดอีกครั้ง

พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง รอง ผบช.ภ.1 เผยหลังการประชุมว่า ได้มีการระดมทีมงาน ทั้งฝ่ายสืบสวน และสอบสวน ทั้งของภาค 1 และของ ภ.จว.สระบุรี กองปราบฯ กองพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งมีความคืบหน้ามากแล้ว โดยในชั้นนี้ตนได้ต่อสายตรงกับผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อขอผลการตรวจดีเอ็นเอ ระหว่างผู้ตายกับมารดา ขอผลเร่งด่วน ซึ่งทางอธิบดีได้รับปากว่าอีก 2 วันคงได้รู้ผล

ส่วนกระดูกจำนวนมากที่พบเพิ่มนั้น ทางกองพิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมเพื่อนำส่งให้แพทย์ตรวจเปรียบเทียบกับโครงกระดูกที่พบครั้งก่อนว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่ ซึ่งชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบรอบนี้ขนาดจะใหญ่กว่า จึงคาดกันว่าผู้เสียชีวิตอาจมีมากกว่า 1 คน ซึ่งเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ไม่ยากและอยู่ในสำนวนสอบสวน ส่วนจะเป็นใครนั้น ทางเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการอย่างแน่นอน โดยประเด็นต่างๆ แคบลงมากแล้ว

นายอำดภอเมืองกาญจน์นำกำลังบุกจับปาร์ตี้ยาในรีสอร์ต

วานนี้ (13 ธ.ค.) นายวิฑูรย์ สิรินุกุล นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้เข้าตรวจค้น บ้านเขียวครามรีสอร์ต หมู่ 1 ต.ช่องสะเดา หลังได้รับรายงานว่ามีการจัดปาร์ตี้มั่วสุมยาเสพติด ภายในรีสอร์ตที่มีการแจ้ง เจ้าหน้าที่พบกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงรวมตัวกันจัดปาร์ตี้และมั่วสุมเสพยาเสพติดจำนวน 28 คน หลังทำการตรวจปัสสาวะพบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีน คีตามีน และยาอี รวมทั้งสิ้น 28 ราย แยกเป็นชาย 13 ราย หญิง 15 ราย

จากการตรวจสอบห้องพักและบริเวณรอบที่พัก พบของกลางยาเสพติดยาไอซ์ จำนวน 120 กรัม ยาอีจำนวนหนึ่ง และยา 542 ซึ่งเป็นยานอนหลับชนิดรุนแรงจำนวน 39 แผง แผงละ 10 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงได้ได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 28 ราย และนำตัวส่งจนท.ตร.สภ.ลาดหญ้าเพื่อดำเนินคดี

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า มีการลักลอบจัดปาร์ตี้ยาเสพติดในพื้นที่กาญจนบุรี และเริ่มมีการลักลอบจัดปาร์ตี้อย่างโจ๋งครึ่ม โดยจัดมั่วสุมตามร้านอาหารที่ไม่มีใบอนุญาตสถานบริการ แต่เปิดให้บริการเสมือนสถานบริการในพื้นที่เมืองกาญจนบุรี และนัดหมายไปมั่วสุมในช่วงกลางคืน โดยมีกลุ่มหญิงบริการกลางคืนเป็นผู้ชักชวนกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นและคนมีสีไปใช้บริการ โดยจัดในร้านอาหารบางแห่งที่เปิดให้บริการแบบโต้รุ่งแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย

วานนี้ (12 พ.ย.) นายวรพล สิงห์เขียวพงษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ เผยเกี่ยวกันกรณีการพบรถจมน้ำและศพที่เหลือเพียงโครงกระดูกภายใน หลังน.ส.กลิ่นเกสร วงษ์สิงห์ หรือ ต่อ อายุ 36 ปี เซลส์ขายปุ๋ย หายตัวนาน 3 ปี โดยระบุว่า ตนคิดว่ากล้องหน้ารถคงพังไปแล้ว แต่เมมโมรี่การ์ดในรถยังอยู่ และสามารถกู้ข้อมูลคืนได้ ซึ่งตำรวจได้ส่งตรวจเพื่อทำการกู้ภาพแล้ว นอกจากนี้ ทีมข่าวของอมรินทร์ทีวียังได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นภาพรถของ น.ส.กลิ่นเกสร ที่ออกจากโรงงานเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2559 เวลา 03.06 น. แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นคนขับรถ เพราะฟิล์มมืดมาก

นอกจากนี้ นายสุรมิส เจริญงาม ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ ก็เผยว่า การจะตัดสินว่ามีคนขับรถแล้วรถไหลลงน้ำ หรือมีการเข็นรถให้รถไหลลงน้ำ สามารถดูได้จากห้องเครื่องรถยนต์ หากต้องการรู้ว่าในขณะที่เกิดเหตุนั้น รถยนต์โดนดับเครื่องแล้วเข็นลงน้ำหรือติดเครื่องแล้วขับลงน้ำ ต้องดูที่ลูกสูบและก้านสูบ โดยหากรถดับเครื่อง ลูกสูบและก้านสูบจะไม่ทำงาน จะพบว่าชุดลูกสูบไม่เสียหาย น้ำจะไม่เข้าไปในลูกสูบได้ถึง 5 ปี ลูกสูบจะไม่เกิดสนิม

ในทางกลับกัน หากรถติดเครื่องแล้วพุ่งลงน้ำ จะพบว่าก้านลูกสูบอาจคด สลักก้านสูบหรือวาล์วบนฝาสูบจะมีรอยสึก เมื่อรถตกน้ำ น้ำจะเข้าไปจนทำให้เครื่องยนต์ช็อต ลูกสูบจะเกิดสนิม

นอกจากนี้ หากปิดกระจกรถยนต์แล้วรถตกน้ำ รถจะจมน้ำช้ากว่าการเปิดกระจกรถยนต์ โดยน้ำจะซึมเข้ามารอบ ๆ ตามรูระบายอากาศ และหัวรถจะจมลงไปก่อนเพราะมีเครื่องยนต์ด้านหน้า จากนั้นน้ำจะไหลเข้าห้องเครื่องยนต์ ห้องโดยสาร และใช้เวลาเพียง 1 นาที รถก็จะจมทั้งคัน แต่ถ้าหากเปิดกระจกรถยนต์เอาไว้ น้ำก็จะไหลเข้ามาเร็วกว่านั้น

แนะนำ : รีวิวหนังไทย | คู่มือพ่อแม่มือใหม่ | แม่และเด็ก | เรื่องผี | แคคตัส กระบองเพชร